Tag: เรอัล มาดริด

บาร์เซโลนา โดนก่อน พลิกชัยเอาชนะ เรอัล บายาโดลิด คว้า 3 แต้มสำคัญ ทิ้งชุดขาว 7 แต้ม

บาร์ซ่า

บาร์เซโลนา แสดงฟอร์มยอดเยี่ยม พลิกสถานการณ์จากการตามหลังมาเอาชนะ เรอัล บายาโดลิด ด้วยสกอร์ 2-1 ในศึก ลา ลีกา ทำให้พวกเขาขยับขึ้นนำโต๊ะคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง เรอัล มาดริด ถึง 7 แต้ม การแข่งขันนัดนี้จัดขึ้นที่ สนามเอสตาดิโอ โฮเซ ซอร์ริยา บ้านของ เรอัล บายาโดลิด ทีมที่ตกชั้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดย บาร์เซโลนา ต้องพลิกสถานการณ์จากการตามหลังในช่วงต้นเกม หลังจาก อีบาน ซานเชซ (Ivan Sanchez) ยิงประตูนำให้เจ้าบ้านได้ในช่วงต้นของเกม

ประตูของ ซานเชซ เกิดขึ้นจากการยิงในมุมแคบที่บอลเปลี่ยนทิศทางอย่างหนักจากการสกัดของนักเตะ บาร์เซโลนา ทำให้ผู้รักษาประตูจับทางไม่ถูก แม้ว่าจะเป็นประตูนำ แต่นั่นกลับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของทีมเจ้าบ้านในเกมนี้ ฮันซี่ ฟลิค (Hansi Flick) ผู้จัดการทีม บาร์เซโลนา ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวจริงถึง 9 คนจากทีมชุดที่เสมอ อินเตอร์ มิลาน 3-3 ในเกมนัดแรกของรอบรองชนะเลิศ แชมเปียนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยมีเกมนัดที่สองที่ อิตาลี ในวันอังคารนี้อยู่ในใจ แม้จะตามหลังอยู่ในช่วงแรก แต่ บาร์เซโลนา ยังคงครองเกมได้อย่างเหนือกว่าตลอดทั้งเกม และการเปลี่ยนตัว ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) เข้ามาแทน ดานี่ โรดริเกซ (Dani Rodriguez) ที่บาดเจ็บในนาทีที่ 38 ทำให้ทีมเยือนมีความคมคายในแดนหน้ามากยิ่งขึ้น ช่วงครึ่งหลังของเกม บาร์เซโลนา เริ่มแสดงฟอร์มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีตัวสำรองอย่าง ราฟินญ่า (Raphinha) และ เฟอร์มิน โลเปซ (Fermin Lopez) เป็นฮีโร่ของทีมด้วยการยิง 2 ประตูติดต่อกันภายในเวลาเพียง 6 นาที ประตูแรกของการตีตื่นมาจาก ราฟินญ่า ซึ่งเป็นประตูที่ 16 ของเขาใน ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ จากการยิงด้วยซ้ายบริเวณขอบเขตโทษอย่างจัง แม่นยำ ลูกบอลพุ่งเข้าประตูอย่างรวดเร็วจนผู้รักษาประตูของ เรอัล บายาโดลิด ไม่สามารถป้องกันได้ ไม่นานหลังจากนั้น เฟอร์มิน โลเปซ ก็ได้โอกาสยิงจากการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมของเพื่อนร่วมทีม ก่อนจะซัดบอลเข้าประตูด้วยความมั่นใจ พลิกให้ บาร์เซโลนา ขึ้นนำ 2-1

 

หลังจากขึ้นนำแล้ว บาร์เซโลนา ยังคงรุกต่อเนื่องเพื่อหวังจะปิดเกมด้วยประตูที่สาม 

 

โดย เอกตอร์ ฟอร์ต (Hector Fort) แบ็คขวาของทีม เกือบจะทำประตูได้แต่ลูกบอลไปติดเสาประตู ขณะที่ ลามีน ยามาล ดาวรุ่งของทีมก็มีโอกาสยิงประตูเช่นกัน แต่ถูกแนวรับของ เรอัล บายาโดลิด สกัดลูกบอลออกไปบนเส้นประตูได้อย่างหวุดหวิด ชัยชนะในเกมนี้ทำให้ บาร์เซโลนา ยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายในลีกต่อเนื่องเป็นนัดที่ 15 โดยชนะไป 13 นัด และยังเป็นการคว้าชัยชนะเหนือ เรอัล บายาโดลิด เป็นครั้งที่ 17 จากการพบกัน 19 นัดหลังสุด สำหรับ เรอัล มาดริด คู่แข่งในการชิงแชมป์ลีก จะต้องเดินทางไปเยือน บาร์เซโลนา ในวันที่ 11 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งน่าจะเป็นเกมที่สำคัญในการชี้ชะตาแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ นอกจากการแข่งขันในลีกแล้ว บาร์เซโลนา ยังมีภารกิจสำคัญในการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศนัดที่สองกับ อินเตอร์ มิลาน ที่ อิตาลี ในวันอังคารนี้ หลังจากเสมอกัน 3-3 ในนัดแรกที่บ้าน ฟอร์มการเล่นในปัจจุบันของ บาร์เซโลนา แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการแข่งขันในทุกรายการ โดยเฉพาะในลีกที่พวกเขามีความได้เปรียบ เรอัล มาดริด อย่างชัดเจน beer777 sbobet และหากสามารถรักษาฟอร์มนี้ไว้ได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ การที่ ฮันซี่ ฟลิค สามารถหมุนเวียนผู้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นถึงความลึกของทีมที่มีผู้เล่นสำรองคุณภาพสูง พร้อมที่จะเข้ามาช่วยทีมได้ทุกเมื่อ อย่างเช่นในเกมนี้ที่ทั้ง ราฟินญ่า และ เฟอร์มิน โลเปซ ต่างก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของพวกเขา beer777 sbobet สำหรับ เรอัล บายาโดลิด แม้จะแพ้ในเกมนี้ แต่พวกเขาก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะในช่วงต้นเกมที่สามารถยิงประตูนำได้ แต่คุณภาพของผู้เล่นและความลึกของทีมยังสู้ บาร์เซโลนา ไม่ได้ การตกชั้นของพวกเขาจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในฤดูกาลนี้

 

แชมป์ลาลีกกา อาจจะตัดสินกันทีเกม เอล กราซิโก้ เกมสุดท้ายของฤดูกาลนี้

 

เกมระหว่าง บาร์เซโลนา กับ เรอัล มาดริด ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ น่าจะเป็นเกมที่สำคัญมากในการชี้ชะตาแชมป์ลีก หาก บาร์เซโลนา สามารถเอาชนะได้ ก็จะทำให้พวกเขามีเต็งหนึ่งในการคว้าแชมป์อย่างชัดเจน ขณะที่ เรอัล มาดริด จำเป็นต้องชนะเพื่อลดช่องว่างคะแนนและรักษาโอกาสในการแย่งแชมป์ไว้ การแข่งขันใน ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ยังคงน่าติดตามต่อไป แม้ว่า บาร์เซโลนา จะมีความได้เปรียบอย่างชัดเจน แต่ฟุตบอลก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และยังมีหลายนัดที่เหลืออยู่ ทุกอย่างจึงยังเป็นไปได้ สำหรับแฟนบอลชาวไทย การติดตามการแข่งขันของ บาร์เซโลนา ในช่วงนี้คงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เพราะทีมกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีและมีโอกาสคว้าแชมป์ได้ทั้งในลีกและถ้วยยุโรป หากสามารถรักษาฟอร์มนี้ไว้ได้ต่อไป

อิสโก้ ยิงประตูชัยพา เรอัล เบติส แซงชนะ เรอัล มาดริด

No Comments
อิสโก้ ยิงประตูชัยพา เรอัล เบติส แซงชนะ เรอัล มาดริด

เรอัล เบติส (Real Betis) โชว์ฟอร์มแกร่งเปิดบ้านพลิกแซงชนะ เรอัล มาดริด (Real Madrid) 2-1 ในศึก ลาลีกา สเปน (La Liga) โดยมี อิสโก้ (Isco) อดีตกองกลางของทีมราชันชุดขาว เป็นผู้ทำประตูชัยจากลูกจุดโทษในนาทีที่ 54 ทำให้ เรอัล มาดริด (Real Madrid) พลาดโอกาสเก็บสามแต้มสำคัญในการลุ้นแชมป์

เรอัล มาดริด ขึ้นนำก่อน แต่ เบติสตีเสมอได้

เรอัล มาดริด (Real Madrid) ออกนำไปก่อนในช่วงต้นเกมเมื่อ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) เปิดบอลทะลุช่องให้ แฟร์ล็องด์ เมนดี้ (Ferland Mendy) หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะปาดให้ บราฮิม ดิอาซ (Brahim Diaz) ซัดโล่งๆ เข้าไป

ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) มีโอกาสบวกสกอร์เพิ่ม แต่พวกเขากลับพลาด และนั่นทำให้เจ้าบ้านมีโอกาสกลับสู่เกม

จอห์นนี่ คาร์โดโซ่ (Johnny Cardoso) เป็นคนทำประตูตีเสมอให้ เรอัล เบติส (Real Betis) ในนาทีที่ 34 จากลูกเตะมุมของ อิสโก้ (Isco) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของเกมนี้

อิสโก้ สวมบทฮีโร่ซัดจุดโทษนำชัย

เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 54 อันโตนิโอ รูดิเกอร์ (Antonio Rudiger) ทำฟาวล์ เฆซุส โรดริเกซ (Jesus Rodriguez) ในเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าให้เจ้าบ้านได้จุดโทษ และเป็น อิสโก้ (Isco) ที่รับหน้าที่สังหารเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด ทำให้ เรอัล เบติส (Real Betis) พลิกขึ้นนำ 2-1

หลังจากนั้น เรอัล มาดริด (Real Madrid) พยายามบุกหนักเพื่อทวงประตูคืน แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของ เบติส (Real Betis) ได้สำเร็จ ขณะที่ทีมเจ้าบ้านเกือบได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ คูโช่ เฮอร์นันเดซ (Cucho Hernandez) ได้โอกาสยิง แต่บอลหลุดกรอบไป

เบติส ขยับขึ้นอันดับ 6 ส่วน มาดริด สะดุดอีกครั้ง

ชัยชนะนัดนี้ทำให้ เรอัล เบติส (Real Betis) ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 6 ของตาราง ลาลีกา สเปน (La Liga) โดยพวกเขามีสถิติการยิงประตูที่ยอดเยี่ยมในเกมนี้ถึง 18 ครั้ง ขณะที่ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ยิงได้เพียง 9 ครั้ง

ส่วนทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) นี่ถือเป็นการแพ้เป็นนัดที่ 4 ในลีกฤดูกาลนี้ และพวกเขายังคงตามหลัง บาร์เซโลน่า (Barcelona) ในตารางคะแนน นอกจากนี้ยังมีโอกาสถูก แอตเลติโก มาดริด (Atletico Madrid) แซงขึ้นไป หากทีมตราหมีสามารถเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา (Athletic Bilbao) ได้ในเกมต่อมา

อิสโก้ กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งกับ เบติส 

อิสโก้ (Isco) เคยค้าแข้งอยู่กับ เรอัล มาดริด (Real Madrid) นานถึง 9 ปี ลงเล่นไป 353 นัด ยิงได้ 53 ประตู และคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) ถึง 5 สมัย ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ เรอัล เบติส (Real Betis) ในปี 2023

ฟอร์มของเขาในฤดูกาลนี้กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง โดยยิงไปแล้ว 6 ประตูจาก 15 นัด และในช่วงเดือนที่ผ่านมา เขาทำได้ถึง 4 ประตู ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการคืนฟอร์มของอดีตจอมทัพทีมชาติสเปน

เกมนี้ อิสโก้ (Isco) ไม่เพียงแต่ทำประตูชัย แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเกมรุก โดยเขาสัมผัสบอลถึง 97 ครั้ง เป็นรองเพียง ลูก้า โมดริช (Luka Modric) เท่านั้น นอกจากนี้ เขายังได้รับใบเหลืองในช่วงท้ายเกมจากการถ่วงเวลาอีกด้วย

ถือเป็นเกมที่พิเศษสำหรับ อิสโก้ (Isco) ที่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังคงเป็นนักเตะที่มีความสามารถ และสามารถช่วยให้ เรอัล เบติส (Real Betis) เดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จในฤดูกาลนี้ต่อไป

หากคุณกำลังมองหา โปรแกรมบอล วันนี้ เรามีตารางการแข่งขันล่าสุดจากทุกลีกทั่วโลกให้คุณติดตาม การวิเคราะห์ โปรแกรมบอล ล่วงหน้าจะช่วยให้นักเดิมพันสามารถวางแผนการแทงได้แม่นยำมากขึ้น

 

อันเชล็อตติแสดงความไม่พอใจเรื่องจังหวะจุดโทษในเกมเสมอ ทีมตราหมี ในเกม มาดริด ดาร์บี้

No Comments
มาดริด ดาร์บี้

คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) กุนซือของ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ได้แสดงความคิดเห็นหลังเกมที่ทีมของเขาเสมอในลา ลีกา (La Liga) โดยมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับจังหวะจุดโทษที่เป็นข้อถกเถียง อันเชล็อตติ (Ancelotti) เริ่มต้นด้วยการปฏิเสธที่จะวิจารณ์จังหวะจุดโทษที่นำไปสู่ประตูแรกของคู่แข่ง แม้ว่าในท้ายที่สุดเขาจะได้แสดงความคิดเห็นบางส่วน กุนซือชาวอิตาเลียนแสดงความยินดีที่ทีมยังรักษาตำแหน่งจ่าฝูง แต่เสียดายที่ไม่สามารถคว้าชัยชนะที่เขาเชื่อว่าทีมสมควรได้รับ

“ผมไม่ต้องการพูดถึงผู้ตัดสิน” อันเชล็อตติ (Ancelotti) กล่าว “แต่ระบบ วีเออาร์ (VAR) เป็นผู้เป่าจุดโทษหลังจากที่ผู้ตัดสินในสนามได้เห็นจังหวะนั้นอย่างชัดเจนและตัดสินไปแล้ว คนในวงการฟุตบอลไม่เข้าใจการตัดสินแบบนี้ แต่ผมไม่อยากสร้างความขัดแย้งเพิ่มเติม” กุนซือ เรอัล มาดริด (Real Madrid) วิเคราะห์ว่าทีมของเขาสมควรได้มากกว่าผลเสมอ โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่ทีมควบคุมเกมได้อย่างสมบูรณ์ ครึ่งแรกทีมเล่นช้าและขาดความดุดัน จังหวะจุดโทษส่งผลกระทบต่อทีมอย่างชัดเจน

วินิซิอุส (Vinicius) และ โรดรีโก้ (Rodrygo) ถูกวางแผนให้เล่นริมเส้น แต่ในครึ่งแรกไม่สามารถทำได้ตามแผน เนื่องจากคู่แข่งตั้งรับต่ำทำให้ต้องเล่นทะลุกลาง เว็บบอล อันเชล็อตติ (Ancelotti) ได้พูดถึงภาพที่เขาเห็นก่อนเกม โดยมี ดานี่ คาร์บาฆาล (Dani Carvajal), เอแดร์ มิลิเตา (Eder Militao), ดาบิด อลาบา (David Alaba) และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ (Antonio Rudiger) ซึ่งล้วนบาดเจ็บมาทักทายเพื่อนร่วมทีมก่อนลงสนาม แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากที่ทีมกำลังเผชิญ

 

อเซนซิโอ และ ชูอาเมนี่แสดงฟอร์มเยี่ยมก่อนเกมที่เอติฮัด

 

อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) แทบจะน้ำตาไหลเมื่อเห็น คาร์บาฆาล (Dani Carvajal), รูดิเกอร์ (Antonio Rudiger), อลาบา (David Alaba) และ มิลิเตา (Eder Militao) ในห้องแต่งตัวก่อนเกม ทั้งสี่คนแต่งตัวลำลองและพยายามให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมก่อนการแข่งขัน “นี่แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่เรามีและเราไม่ได้ทำอะไรผิด” กุนซือ เรอัล มาดริด กล่าว เขาต้องลงเล่นในเกมเดอร์บี้และต้องออกไปที่ เอติฮัด กับ ลูคัส (Lucas Vazquez), อเซนซิโอ (Mario Asensio), ชูอาเมนี่ (Aurelien Tchouameni) และ เมนดี้ (Ferland Mendy) “มันก็แค่นี้แหละ” คาร์เล็ตโต้ (Carletto) กล่าว เขาสามารถสลับตำแหน่งได้เพียงแค่แบ็คซ้าย ซึ่ง ฟราน การ์เซีย (Fran Garcia) มีบทบาทในทีมมากขึ้นเรื่อยๆ

 

หนึ่งในข่าวดีของเกมดาร์บี้คือผลงานของกองหลังตัวกลาง ทั้ง ชูอาเมนี่ และ อเซนซิโอ เล่นได้ยอดเยี่ยมในเกม มาดริด ดาร์บี้นี้

 

 โดยสามารถควบคุม ฆูเลียน อัลบาเรซ (Julian Alvarez) และ กรีซมันน์ (Antoine Griezmann) ในช่วงแรก และ คอร์เรอา (Angel Correa) กับ ซอร์ลอธ (Alexander Sorloth) ในช่วงท้ายเกม ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับเกมวันอังคารที่จะพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี ฮาลันด์ (Erling Haaland)  อเซนซิโอ เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นเกมที่สร้างชื่อให้กับอาชีพของเขา นักเตะจากอคาเดมี่เป็นผู้นำแนวรับในครึ่งแรก แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในการสกัดบอลและความเร็ว เขาเป็นกองหลังที่เร็วที่สุดของ เรอัล มาดริด รองจาก รูดิเกอร์ และชนะการดวลทั้งหมดกับกองหน้าของ แอตเลติโก มาดริด เมื่อมีบอลที่เท้าเขาก็แสดงความมั่นใจ เริ่มเกมรุกจากแดนหลังด้วยบุคลิกที่โดดเด่น และมีสถิติที่ยอดเยี่ยม เว็บบอล ส่งบอลสำเร็จ 51 ครั้ง ผิดพลาดเพียง 2 ครั้ง อเซนซิโอ ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ เรอัล มาดริด ไปแล้ว 19 นัดนับตั้งแต่ประเดิมสนามเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจาก มิลิเตา บาดเจ็บ เขาได้โอกาสในจังหวะที่เหมาะสมและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับตัวเขา: เขาพร้อมที่จะเล่นให้ เรอัล มาดริด ส่วนผลงานของ ชูอาเมนี่ ก็ได้รับคำชมจาก คาร์โล อันเชล็อตติ เช่นกัน กองกลางชาวฝรั่งเศสเล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และผ่านพ้นจังหวะจุดโทษที่เขาเหยียบ ลิโน (Samuel Lino) ซึ่งไม่ใช่จังหวะร้ายแรงเพราะนักเตะ แอตเลติโก มาดริด ไม่มีโอกาสไปถึงบอล ชูอาเมนี่ ได้รับเสียงปรบมือจากแฟนบอลที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว (Santiago Bernabeu) หลังจากครึ่งหลังที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมและเกือบจะทำประตูได้จากลูกโหม่ง เมื่อมีบอลที่เท้า เขาทำสถิติส่งบอลสำเร็จ 53 ครั้ง ผิดพลาด 4 ครั้ง